ทัพ สิงโตคำราม อังกฤษ ยังคงโชว์ฟอร์มได้ไม่สมราคาทีมเต็ง เมื่อลงสนามในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เสมอกับ สโลเวเนีย ไป 0-0 แบบที่รูปเกมนั้นมันไม่ได้ดูดีขึ้นมาเลย แต่ยังดีที่อีกคู่นั้นก็เสมอเหมือนกัน เลบทำให้ทีมนั้นได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ของสาย ด้าน เซาธ์เกต บอกจะรอปล่อยของรอบน็อกเอ้าท์ ส่วนกองเชียร์บอก จะปล่อยกี่โมง
จบแบบเจ๊าๆ อังกฤษ เสมอ สโลเวเนีย ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม
ทัพ ทรี ไลอ้อนส์ ทีมชาติ อักฤษ ลงสนามในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มในศึก ยูโร 2024 รอบสุดท้าย โดยเกมนี้เจอกับทาง สโลเวเนีย ซึ่ง อังกฤษ เองนั้นก็การันตีการเข้ารอบไปแล้ว ส่วนทาง สโลเวเนีย เกมนี้ขอมีแต้มเอาไว้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบเป็นอันดับสามที่ดีที่สุดนั่นเอง ทั้งสองทีมเองนั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากนัก
ทางทีมชาติ อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกตุ เกมนี้ยังคงส่งทาง จอร์แดน พิคฟอร์ด ลงเล่นเป็นนายทวาร แบ็คขวาเป็นทาง ไคลด์ วอล์คเกอร์ เซเนตอร์ฮาล์ฟคู่เป้นทาง มาร์ค เกฮี คู่กับทาง จอห์น สโตนส์ แบ็กซ้ายเป็นทาง คีแรน ทริปเปีย เหมือนเดิม ส่วนทาง มิดฟิลด์ตัวรับสองคนใช้ทาง ดีแคลน ไรซ์ เล่นคู่กับทาง คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ส่วนในแนวรุกมีทาง จู๊ดเบลลิ่งแฮม,ฟิล โฟเด้น,บูกาโย่ ซาก้า ส่วนหน้าเป้าเป็น แฮร์รี่ เคน เหมือนเดิม
ด้านทาง สโลเวเนีย เกมนี้นั้นยังมีทาง เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าฟอร์มแรงของทางสโมสร อาร์แบ ไลป์ซิก ลงสนามเป็นกองหน้าคู่กับทาง อันดราซ สปอรา ส่วนจอมทัพอย่าง ทิมิ เอลสนิค ยังลงเล่นเหมือนเดิม แถมด้วยนายทวารอย่าง แยน โอบลัค ลงเฝ้าเสา ส่วนตัวเก๋าอีกคนอย่าง โยซิป อิลิซิซ เป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนาม
เริ่มเกมมานั้นเป็น อังกฤษ ที่ครองบอลบุกแต่ก็ไม่ไหลลื่นเท่าไหร่นัก โดยในนาทีที่ 20 ก็ส่งบอลเข้าไปได้ แต่ว่าทางกรรมการนั้นยกธงล้ำน้าไปซะก่อน ทั้งๆที่เป็นรูแบบการเข้าทำที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นในนาทีที่ 31 ก็มาสบโอกาสได้ยิงอีกครั้ง หลังจากที่ ดีแคลน ไรซ์ ไปแย่งบอลมาได้หน้ากรอบเขตโทษ สโลเวเนีย มาเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ปั่นด้วยขวานอกกรอบ บอลไปตรงตัว แยน โอบลัค ยืนยิ้มรับเอาไว้สบาย
จากนั้นนาทีที่ 35 อังกฤษ มาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เข้าเหลี่ยมเท้าซ้ายของ โฟเด้นพอดี เจ้าตัวเลยรับหน้าที่อาสายิง หมายจะให้ข้ามกำแพงและเสียบสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ว่า โอบลัค ยังอ่านทางได้เยี่ยม เหินไปตะปปบอลก่อนที่จะรับเอาไว้ได้ มาถึงนาทีที่ 40 คีแรน ทริปเปีย ที่เล่นแบ็กซ้าย เปิดบอลแบบ อินสวิง ไปทางเสาสอง ทั้ง คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ แะล แฮร์รี่ เคน กระโดดเข้าชาร์จ แต่ไม่มีใครโดนบอลเลย ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันไปที่ 0-0
ครึ่งหลัง เซาธ์เกต อยู่ไม่ได้เปลี่ยนผู้เล่นก่อนเลย โดยส่งทาง ค็อบบี้ ไมนู ลงมาเล่นแทนที่ของทาง คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ในครึ่งแรกมีหลายคนถามว่า ลงไปทำไม ออกจากสนามทันที พอเจ้าหนู ไมนู ลงมานั้น ก็ทำให้เกมตรงกลางของทีมชาติ อังกฤษ ขับเคลื่อนได้คล่องมากขึ้นและดูเป็นเกมมากขึ้นอย่างมาก มีโอกาสจบสกอร์มากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย แต่ก็ไม่เข้าเป้าเท่าไหร่นัก
จนมาในนาทีที่ 75 ฟิล โฟเด้น ที่วันนี้เล่นได้เด่นกว่า เบลลิ่งแฮม มาก จ่ายอเข้าเขตโทษให้ ไรซ์ ที่เติมมาเล่นเกมรุก วอลเลี่ยด้วยขวา บอลพุ่งผ่านเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาที่ 75 บูกาโย่ ซาก้า โดนเปลี่ยนตัวออกให้ทาง โคล พอลเมอร์ ลงมาเล่นแทน ก้ยังไม่มีโฮกาสจบสกอร์มาดขึ้น สุดท้ายเลยส่งทาง แฮนโธนี่ กอร์ดดอน ลงมาเล่นแทน ฟิล โฟเด้น ในนาทีที่ 89
ซึ่งโอกาสจบสกอร์ที่จะแจ้งก็มาถึงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ กอร์ดอน ได้บอลในแดนตัวเอง ก่อนที่จะจ่ายเรียดทะลุช่องกลางมาให้ ค็อบบี้ ไมนู ไขว้หลังให้ทาง แฮร์รี่ เคน ป้ายออกมาทางขวาอีกที โคล พาลเมอร์ วิ่งเข้ามายิงทีเดียวแบบไม่จับ บอลพ่งเรียดจะเสียเสาแรก แต่ โอบลัค ที่ประสบการณ์ล้นเหลือล้มตัวรับแบบชิลล์ๆเลย
ถึงอย่างไรก็ตามทีในคู่ของทาง เดนมาร์ก กับทาง เซอร์เบีย นั้นก็จบลงด้วยสกอร์เดียวกัน ทำให้ อังกฤษ เป็นที่ 1 ของสายมี 5 คะแนน ส่วนทาง เดนมาร์ก เป็นที่ 2 มี 4 คะแนน สโลเวเนีย เป็นที่ 3 มี 3 คะแนน ส่วน เซอร์เบีย จบที่ 4 มี 1 คะแนน กลับบ้านตามหลัง สกอตแลนด์ ไปติดๆ ส่วน สโลเวเนีย นั้นมีโอกาสที่จะเข้ารอบด้วยอันดับ 3 ที่ดีที่สุดสูงมากแต่ก้ต้องรองดูผลในคู่ของคืนวันนี้อีกด้วย
หลังจากจบเกมนั้นบรรดานักวิเคราะห์มงว่า เซาธ์เกต ควรที่จตะให้ ค็อบบี้ ไมนู,โคล พาลเมอร์ รวมทั้งทาง แอนโธนี่ กอร์ดอน นั้นลงเล่นเป็นตัวจริงได้แล้ว เพราะว่าเมื่อทั้งสามคนนั้นลงมา ทำให้ทีมนั้นเล่นได้ดีขึ้น แถมยังเล่นเข้าขาและเข้าใจกันอีกด้วย ส่วนทางด้านเซาธ์เกต บอกหน้าตาเฉยเลยว่า รอบน็อกเอ้าท์นั้น อังกฤษ จะปล่อยของออกมาแน่นอน
ใครที่อยากติดตาม ผลบอลสด หรือยากจะดู ไฮไลท์ฟุตบอล ได้ทุกเวลานั้น สามารถเข้ามาติดตามกันได้ที่เว็บ ดูหนังดูบอล.com ได้เลย ที่นี่อัพเดททุกๆข่าวสารวงการกีฬาอีกทั้งยังมีบท วิเคราะห์บอล ที่แม่นยำ ที่จะทำให้ท่านเลือกแทงได้ถูกทีม