ลิเวอร์พูลตอกย้ำสถานะทีมเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากโชว์ฟอร์มแกร่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสองประตูสุดสวยจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โดมินิค โซบอสไล ไฮไลท์ฟุตบอล ล่าสุด แมนฯ ซิตี้ 0-2 ลิเวอร์พูล ส่งผลให้ “หงส์แดง” เดินหน้าสู่ตำแหน่งจ่าฝูงอย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน แชมป์เก่าอย่างแมนฯ ซิตี้ ยังคงอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ และต้องเผชิญปัญหาสำคัญ เมื่อไม่สามารถใช้งาน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ได้อีกครั้ง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในเกมรุกของพวกเขาโดยตรง
ไฮไลท์ฟุตบอล ล่าสุด แมนฯ ซิตี้ 0-2 ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โดมินิก โซบอสไล ช่วยกันยิงคนละประตูตั้งแต่ครึ่งแรก พา ลิเวอร์พูล บุกคว้าชัยเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ แม้ว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะครองบอลเหนือกว่าและสร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมเยือนจากเมอร์ซีย์ไซด์ได้ ปัจจุบัน แมนฯ ซิตี้ ตามหลังจ่าฝูงถึง 20 คะแนน และมีแต้มเหนือทีมอันดับ 5 เพียงเล็กน้อย ทำให้การคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า กลายเป็นภารกิจสำคัญของพวกเขาในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้ เปิดเกมสูสี ก่อนซาลาห์ซัดนำ 1-0
การแข่งขันเริ่มต้นอย่างสมดุล ทั้งสองทีมพยายามหาช่องทางเจาะแนวรับของกันและกัน โดยต่างฝ่ายต่างมีช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะสร้างโอกาสได้ แต่ยังไม่มีจังหวะอันตรายจริงจังในช่วงต้นเกม อลิสซอน เบ็คเกอร์ โชว์ฟอร์มเซฟลูกเตะมุมของแมนฯ ซิตี้ได้หลายครั้ง ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะฉวยโอกาสจากเกมรุกของตัวเอง จังหวะสำคัญมาถึงเมื่อ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เปิดบอลเรียดไปที่เสาใกล้ในลักษณะที่ดูเหมือนพลาด แต่กลับกลายเป็นการจ่ายบอลให้ โดมินิค โซบอสไล โดยตั้งใจ ก่อนที่เขาจะส่งบอลย้อนกลับไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดผ่านแนวรับเข้าไปกลางกรอบเขตโทษ บอลแฉลบเล็กน้อยผ่านมือ เอแดร์ซอน กลายเป็นประตูสำคัญที่ส่งให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ
อลิสซอน เหนียวแน่น มาร์มุช ส่งบอลซุกตาข่ายแต่ถูกจับล้ำหน้า
แม้ว่าจะได้ประตูขึ้นนำ แต่เกมยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้น ลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นด้วยความง่ายดาย เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามเร่งเครื่องบุกเข้าใส่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ต้องออกแรงเซฟลูกยิงจากนอกกรอบเขตโทษของ โอมาร์ มาร์มุช และ ฟิล โฟเดน ซึ่งนายด่านชาวบราซิลรับมือได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่นานหลังจากนั้น มาร์มุช สามารถส่งบอลผ่านมือผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่ความดีใจของเจ้าตัวต้องหยุดลงเมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า เป็นการตัดสินที่ชัดเจน และทำให้ ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาความได้เปรียบไว้ได้
ลิเวอร์พูลคุมเกม! ซาลาห์แอสซิสต์ให้โซบอสไลบวกสกอร์สุดเฉียบ
ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในช่วงท้ายครึ่งแรกที่พวกเขาสร้างความได้เปรียบอย่างชัดเจน เกมรุกที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณภาพของ “หงส์แดง” ทำให้แนวรับคู่แข่งต้องปั่นป่วน จังหวะสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ควบบอลจากการวางยาวไปทางฝั่งขวา ก่อนใช้ความเร็วพาบอลเข้าไปยังพื้นที่อันตราย จากนั้นเขาส่งบอลเข้ากลางให้ โดมินิก โซบอสไล ที่ไม่มีตัวประกบจัดการซัดเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำได้อย่างสวยงาม
ลิเวอร์พูลรับแล้วสวน! ซิตี้ถูกโต้กลับเกือบเสียประตูที่สาม
ลิเวอร์พูลเล่นด้วยแท็กติกที่ชัดเจน ปล่อยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอล และรอจังหวะโต้กลับเพื่อหาช่องทำประตู เว็บวิเคราะห์บอล ในช่วงต้นครึ่งหลัง เจ้าบ้านพยายามเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถสร้างอันตรายที่แท้จริงให้กับแนวรับของทีมเยือนได้ ไม่นานหลังจากนั้น ลิเวอร์พูลสามารถส่งบอลเข้าตาข่ายได้เป็นครั้งที่สามจากการจบสกอร์ของ เคอร์ติส โจนส์ อย่างไรก็ตาม VAR เข้ามาตรวจสอบและยกเลิกประตูดังกล่าว เนื่องจาก โดมินิก โซบอสไล อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนจะมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาส ทำให้ “หงส์แดง” ชวดได้ประตูเพิ่มไปอย่างน่าเสียดาย
เอแดร์สันซูเปอร์เซฟ! ลิเวอร์พูลเน้นเกมรับปิดโอกาสแมนฯ ซิตี้
เอแดร์สัน โชว์ฟอร์มสุดยอดเมื่อป้องกันลูกยิงของ หลุยส์ ดิอาซ ได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่แนวรับของลิเวอร์พูลต้องทำงานหนัก เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องคอยสกัดจังหวะอันตรายจาก โอมาร์ มาร์มุช ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงพยายามทวงประตูคืนอย่างหนัก และมีช่วงที่ ริโก้ ลูอิส ซัดบอลกระดอนเข้าประตู ทำให้เกมยิ่งทวีความเข้มข้น เพื่อรักษาความได้เปรียบ ลิเวอร์พูลตัดสินใจส่ง วาตารุ เอ็นโด ลงสนามในช่วง 17 นาทีสุดท้าย รวมถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง ขณะเดียวกัน พวกเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งแบ็กซ้าย หลังจากที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เริ่มเจอกับความกดดันจาก ซาวินโญ่ ที่เล่นได้อย่างดุดันในช่วงท้ายเกม
ลิเวอร์พูลยังคงโชว์ฟอร์มสุดแกร่งในศึกพรีเมียร์ลีก หลังเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ “หงส์แดง” นำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนห่างถึง 11 แต้ม ชัยชนะนัดนี้ยิ่งทำให้โอกาสในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25 ของ ลิเวอร์พูล สดใสมากขึ้นไปอีก ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอ แฟนบอลต่างเชื่อมั่นว่า ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังมุ่งหน้าไปสู่ถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษได้อย่างมั่นคง
ดูผลวิเคราะห์บอลและไฮไลท์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
